ในประเทศอย่างอิตาลี คำว่ารุ่มรวยด้วยงานศิลปะคงไม่ผิดไปนัก ตั้งแต่งานสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของยุคโรมัน งานแกะสลักหินอ่อนและภาพวาดอันสวยงามและล้ำค่ามากมายจากยุคเรเนอซองต์ เราย่อมปฎิเสธไม่ได้ถึงอิทธิพลของอิตาลีตั้งแต่สมัยโรมันมาจนถึงปัจจุบันที่ส่งผลต่องานศิลปะ งานออกแบบ งานสถาปัตยกรรมของทั้งโลก แม้แต่งานตกแต่งพื้นด้วยกระเบื้องปูพื้นก็เช่นกัน
ในอิตาลีเราสามารถพบวัสดุที่ใช้ปูพื้นได้หลากหลาย ในสมัยก่อนที่จะมีกระเบื้องที่ผลิตมาโดยเฉพาะเพื่อตกแต่งพื้น ในสมัยโรมันมีการใช้แผ่นหิน และแผ่นหินอ่อนในวิหาร รวมถึงการนำแผ่นหินสีต่าง ๆ มาตัดเป็นทรงเรขาคณิตขนาดไม่ใหญ่มาก มาติดประดับพื้นกลายเป็นงานโมเสคที่สวยงามและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก และเป็นต่องานศิลปะของไบแซนไทน์ในยุคต่อ ๆ มา ส่วนชาวบ้านธรรมดาอาจใช้กระเบื้องดินเผาธรรมดาในการปูพื้น
ต่อมาในยุคกลางมีการพัฒนากระเบื้องปูพื้นอย่างมากให้มีความสวยงามมากขึ้น เป็นกระเบื้องเซรามิกที่โดดเด่น ซึ่งมีรูปร่าง ขนาดและสีสันมากมาย รวมถึงความหนาที่แตกต่าง ตั้งแต่กระเบื้องเซรามิกเคลือบธรรมดาไปจนถึงกระเบื้องเขียนลายด้วยมือทีละแผ่น แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามแตกต่างกันไป
และโดยการสนับสนุนของนักบวชในศาสนาคริสต์และชนชั้นสูงเพื่อนำมาใช้ตกแต่งโบสถ์และมหาวิหารต่าง ๆ ให้สวยงาม ทำให้ฝีมือช่างในการปูพื้นก็มีลูกเล่น มีแพทเทิร์นที่วิจิตรมากขึ้น ด้วยอย่างเช่น โบสถ์ Santa Maria ใน Trastevere ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ ของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่มีการปูพื้นด้วยกระเบื้องเล็กๆประกอบกันเป็นลวดลายงดงาม หรือกระเบื้องเซรามิกเขียนมือของวิหารน้อย Cappella di San Sebastiano ในมหาวิหาร Basilica di San Petronio ที่เมือง Bologna ในประเทศอิตาลี ที่เป็นกระเบื้องหกเหลี่ยมเขียนสีเป็นลวดลายแตกต่างกันไปในแต่ละแผ่น ด้วยฝีมือและนวัตกรรมในการผลิตกระเบื้อง ทำให้ในปัจจุบันกระเบื้องอิตาลีจากยุคกลางและยุคเรเนซองค์ยังคงสวยงาม มีสีสันสดใสและคงทนมาจนถึงปัจจุบัน และประเทศอิตาลียังคงอนุรักษ์รักษาทั้งช่างฝีมือและรูปแบบการทำกระเบื้องเซรามิกแบบดั้งเดิมได้
ส่วนกระเบื้องดินเผาแบบ TerraCotta ยังคงเป็นที่นิยมในบ้านคนทั่วไปมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยสีสันที่ดูอบอุ่นและความเรียบง่าย การดูแลรักษาก็ไม่ต้องมาก สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงพื้นภายนอกอาคาร ชาวบ้านบางกลุ่มยังพัฒนากระเบื้องให้ออกมาเป็นทรงผืนผ้าแล้วปูพื้นแบบลายก้างปลาแทน หรือที่เรียกว่า Spina di pesce เป็นความสวยงามที่ดูพอดี
เราอาจกล่าวว่ากระเบื้องของอิตาลี เป็นกระเบื้องที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ สวยงามข้ามกาลเวลาและยังคงมีลมหายใจมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของงานฝีมือที่คงรูปแบบประเพณีและพัฒนาต่อยอดมาหลายศตววรษได้