เชื่อว่าหลายคนไปเที่ยวเมืองในประเทศอังกฤษ อย่างเช่นลอนดอน หรือแมนเชสเตอร์แล้วนั้น อาจจะเห็นว่าบ้านเรือนสมัยเก่าของอังกฤษมักจะเป็นบ้านก่ออิฐสีแดง บางครั้งก็สีเข้มจนจะเป็นสีแดงเลือดหมู อายุหลายร้อยปีและยังคงทนสวยงามมาจนปัจจุบัน อย่างเช่น ตึกแถวยุควิคตอเรี่ยน แถวเคนซิงตัน หรือ บ้าน Terrence house ในเมืองแมนเชสเตอร์ จนบางครั้งพอพูดถึงบ้านเรือนในเกาะอังกฤษ บ้านอิฐสีแดงมักจะเด้งขึ้นมาในความคิดของผู้คนทั่วไปเป็นสิ่งแรก ๆ
เราดูกันว่าทำไมในอังกฤษจึงนิยมใช้อิฐสีแดงในการสร้างบ้านเรือนผู้คน เรามาย้อนประวัติดูกัน อิฐเกิดจากดินเหนียวถูกใช้ในอารยธรรมเก่าแก่ทั่วโลก ทั้งในเมโสโปเตเมีย วัฒนธรรมอียิปต์ ในอินเดียโบราณ แต่อิฐมาเข้าสู่ยุโรปตะวันตกโดยชาวโรมัน ซึ่งชาวโรมันได้ประดิษฐ์ปูนซีเมนต์ขึ้นในการเป็นตัวประสานก่ออิฐ ทำให้อาคารอิฐมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น และได้เข้าไปสู่ฝรั่งเศสและเยอรมัน ก่อนเข้าสู่เกาะอังกฤษในเวลาต่อมา
อันที่จริงสมัยก่อนคนอังกฤษก็ใช้บ้านไม้กัน แต่ด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในกรุงลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 1666 ที่เผาทำลายบ้านเรือนไปกว่า 13,200 หลัง พร้อมโบสถ์อีก 87 หลัง ผู้คนที่ตายจากไฟที่มีการบันทึกได้มีมากว่า 80,000 คน จึงทำให้เกิดกฎหมายเทศบัญญัติอาคารฉบับแรกขึ้น โดยห้ามมีการสร้างบ้านโครงไม้ในลอนดอนและผู้คนต่างตื่นตัวกันหันมาใช้วัสดุที่ทนไฟ ซึ่งอิฐค่อนข้างตอบโจทย์ เพราะด้วยเกาะอังกฤษมีดินเหนียวเป็นวัสดุท้องถิ่น สามารถผลิตได้จำนวนมาก วัสดุยังแข็งแรงสามารถก่อเป็นโครงสร้างกำแพงรับน้ำหนักได้ และที่สำคัญคือมีราคาถูกกว่าวัสดุชนิดอื่นในยุคเดียวกัน ทำให้บ้านคนทั่วไปในอังกฤษหันมานิยมสร้างอาคารด้วยอิฐเป็นหลัก และมีการพัฒนาโครงสร้างอาคารอิฐอย่างมากในยุคต่อมา
นอกจากนี้หากใครไปเที่ยวอังกฤษจะพบว่าบ้านเมืองเต็มไปด้วยหมอกและฝน ดังนั้นในยุควิคตอเรียนมา ในลอนดอนจึงนิยมใช้อิฐสีแดงในการสร้างบ้านเรือน เพราะว่าสามารถทำให้มองเห็นอาคารได้มากขึ้น และกลายเป็นเอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมที่งดงามของบ้านเรือนในอังกฤษและอิฐยังให้ความรู้สึกหนักแน่นมั่นคงดูอบอุ่น
หากเราอยากได้บ้านเรือนสไตล์แบบตะวันตกอย่างอังกฤษ อิฐไทยกับอิฐอังกฤษต่างกันอย่างไร สามารถก่ออาคารก่ออิฐโชว์แนวด้วยอิฐไทยได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าทำได้ แต่ด้วยชนิดของดินเหนียวที่แตกต่างกัน อิฐบ้านเราพอเผาออกมาแล้วจะออกสีส้มกว่าของอังกฤษ และอาคารในปัจจุบันไม่ได้นิยมก่ออิฐเป็นกำแพงหนาแบบสมัยโบราณ เรามักก่ออิฐด้วยความหนาเพียงหนึ่งก้อน และต้องมีคานเอ็นช่วยซัพพอร์ต ทำให้ไม่ออกมาเป็นผนังอิฐสีแดงล้วนทั้งผืนอย่างที่เกาะอังกฤษ
แต่ว่าในอังกฤษเองนั้น บ้านสร้างในยุคปัจจุบันหลายหลังก็เป็นโครงสร้างแบบอื่นไม่ใช่กำแพงอิฐรับน้ำหนักแล้วเช่นกัน แต่ผู้คนก็ยังชื่นชอบในรูปแบบบ้านอิฐ จึงใช้วิธี Cladding ผิวอาคารด้วยวัสดุทดแทน เพื่อให้อาคารออกมาเป็นสถาปัตยกรรมอิฐที่มีความงามดั่งของดั้งเดิมที่ยืนยงมาหลายร้อยปี
ซึ่งวัสดุทดแทนที่ใช้ Cladding ผิวอาคารอย่างกระเบื้อง EXTRUDED Tile ของทาง KENZAI อาจช่วยเติมเต็มความต้องการของท่านได้ หากจะรีโนเวตหรือทำบ้านให้เป็นสไตล์อังกฤษ ท่านไม่ต้องก่อกำแพงอิฐให้หนา หรือกระเทาะผนังให้ยุ่งยาก เพียงนำกระเบื้อง EXTRUDED Tile ไปปิดผิวอาคารเดิม ก็เพิ่มบรรยากาศอย่างบ้านตะวันตกให้ท่านได้แล้ว ด้วยกระเบื้องดินเผาปิดผิวอาคารที่มีสีสันใกล้เคียงอิฐของทางตะวันตกมาก และด้วยการเผากว่า 1,250 องศามีความแข็งแรงทนทานกว่าของทั่วไปในท้องตลาด ทนกรด ทนด่างกว่าอิฐของจริง และยังดูดซึมน้ำต่ำ ไม่เป็นเชื้อรา สามารถรับน้ำหนักได้ดี โดยสามารถนำมาปูพื้นภายนอกได้ด้วย
นอกจากนี้ด้วยเส้นสายของกระเบื้องที่มีความคม ช่วยให้ภาพรวมของอาคารดูเนี้ยบ เหมาะกับบ้านยุคใหม่ได้ และไม่ดูเป็นอาคารเก่าแก่โบราณ นอกจากนี้ EXTRUDED Tile ของทาง KENZAI ยังมีขนาดของกระเบื้องหลายขนาดและสีสันมากมายให้ท่านนำมาบรรจงแต่งเติมบ้านของท่านให้กลายเป็นแนวที่ท่านต้องการ และยังคงความอบอุ่นคลาสสิกแบบบ้านอิฐตะวันตกได้อย่างดี
ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดกระเบื้องรุ่น EXTRUDED Tile ได้ที่