เชื่อว่าปัจจุบันทุกท่านคงทราบดีว่าเมืองไทยของเรากำลังเข้าสู่สภาวะสังคมผู้สูงอายุ หลายท่านแม้แต่บ้านของผู้เขียนเองก็มีญาติผู้ใหญ่อาศัยอยู่ในบ้าน สิ่งที่พวกเราทุกคนกลัวกันมากที่สุดก็คือเรื่องการหกล้มในผู้สูงอายุ โดยข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่าผู้ที่สูงอายุเกิน 65 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงจากการหกล้มสูงถึง 35% อันเกิดจากอายุที่มากขึ้น สภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมทำให้ทรงตัวไม่ดี ไขข้อต่างๆไม่ดี สายตาที่แย่ลงทำให้กะระยะได้ไม่ดี รวมถึงโรคบางอย่าง และอีกปัจจัยคือผู้สูงอายุอาจมีปัญหาต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก
ผู้สูงอายุเมื่อหกล้มแล้ว ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงการเสียชีวิต และในประเทศไทยมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการบาดเจ็บจากการหกล้มสูงเป็นอันดับ 2 รองจากอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงการที่ลื่นล้มที่อาจทำให้พวกท่านเกิดการสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง อันก่อเกิดโรคซึมเศร้าตามมา ดังนั้นสิ่งที่พวกเราควรจะป้องกันไว้ เพื่อผู้สูงอายุก็คือการปรับปรุงบ้านหรือที่พักให้เหมาะสมกับพวกท่าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มราวจับที่บันได หรือการล้างห้องพักที่ชั้น 1 สำหรับคนที่มีบ้าน2ชั้นและใช้ชั้นสองเป็นห้องนอนมาโดยตลอด อาจถึงเวลาที่ต้องทำห้องนอนใหม่ที่ชั้น 1
และอีกสิ่งที่สำคัญมากๆ หากใครที่มีงบประมาณสิ่งที่ควรปรับปรุงอย่างแรกๆคือ ห้องน้ำ การออกแบบห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญมาก หากทำได้ควรทำ และห้องน้ำไม่ควรมีพื้นที่ต่างระดับ อันก่อให้เกิดการลื่นล้มได้ อย่างการออกแบบห้องน้ำของต่างประเทศ ใช้ตะแกรงเล็กๆหรือสโลปเล็กน้อยกันน้ำออก จะไม่ทำพื้นต่างระดับ และห้องน้ำผู้สูงอายุจะมีขนาดใหญ่ เผื่อให้รถเข็นเข้าได้ มีราวจับที่แข็งแรงทั้งที่อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ตรงบริเวณฝักบัวก็ทำที่นั่งให้สามารถนั่งอาบน้ำได้ อย่างที่เยอรมันห้องน้ำผู้สูงอายุจะไม่ใช่แผ่นกระจกกั้นที่บริเวณที่อาบน้ำ แต่จะใช้เป็นผ้าม่านแทนเพื่อกันการลื่นไปโดนกระจกอันจะก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งประตูห้องน้ำผู้สูงอายุควรเปิดออกจากภายนอกได้ หรือเป็นบานเลื่อนเผื่อเกิดอะไรขึ้น คนภายนอกจะเข้าไปช่วยได้
และอีกสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่าง คือกระเบื้องปูพื้นที่ดีและไม่ลื่น ปกติในบ้านเรามักจะใช้กระเบื้องที่ห้องน้ำและห้องครัว เราอาจสนใจที่ความสวยงาม แต่อีกสิ่งที่ควรสนใจมากๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ คือ กระเบื้องกันลื่น โดยค่ากันความลื่นของกระเบื้อง จะเรียกว่า Slip resistant ซึ่งจะทดสอบจากการปูกระเบื้องและทดสอบกับการลาดเอียงว่าเท่าไรจึงจะเริ่มลื่น ยิ่งผิวกระเบื้องไหนสามารถมีองศาของทางลาดที่มากแล้วของไม่ลื่นลงมาก็แสดงว่า กระเบื้องชนิดนั้นมีค่ากันความลื่นที่สูง โดยระบบตรวจวัดนี้เรียก The Ramp Test (DIN 51130) ซึ่งใช้กันมากที่ยุโรป เช่น เยอรมัน สเปน เป็นต้น รวมถึงมีใช้ที่อเมริกาด้วย
โดยค่ากันความลื่นของกระเบื้องที่ยอมรับได้ที่ใช้ทั่วไปในห้องปกติ คือระดับ R9 หรือก็คือสามารถผ่าน Ramp test ที่ระดับ 3 – 10 องศา ถ้าทางลาด 10 องศา ก็พอจะใช้กระเบื้องที่มีค่า R9 ได้ แต่ถ้าสำหรับห้องน้ำพวกระดับ R9 ยังจัดว่าไม่เหมาะสม ถ้าหากเราจะทำห้องน้ำหรือที่เปียกน้ำได้เช่นพื้นที่ซักล้าง ควรจะมีระดับค่ากันลื่นที่ R10 ขึ้นไปหรือผ่าน Ramp test ที่ 10 – 19 องศา หรือถ้ายังไม่ชัวร์ก็ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่ากันลื่นที่สูงกว่านั้น
นอกจากนี้ยังมีอีกพื้นที่หนึ่งที่ควรใส่ใจ นั่นคือพื้นที่นอกบ้านที่อาจเป็นพื้นที่ที่หลายคนละเลย โดยไม่ได้คิดว่าจะต้องกังวลเรื่องความลื่นเหมือนกับพื้นที่ห้องน้ำ แต่จริงๆแล้วพื้นที่ภายนอก อย่างเช่น ชานนอกบ้าน ทางเดินรอบอาคาร หรือพื้นที่ลานจอดรถ และยังเป็นพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือเศษดินเศษทราย เมื่อสิ่งเหล่านั้นเจอกับน้ำฝนก็ทำให้ลื่นง่ายมากและเป็นอันตรายได้ และบางบ้านก็เป็นบ้านสวน มีการรดน้ำต้นไม้บ่อยก็ยิ่งต้องระวังที่พื้นรอบบ้านจะลื่นได้ ดังนั้นกระเบื้องที่ใช้สำหรับภายนอกควรเป็นกระเบื้องที่มีค่ากันลื่นสูงกว่าโดยปกติ ใครที่อยากปูกระเบื้องทางเดินรอบบ้านให้ไม่ลื่น เผื่อว่าผู้สูงอายุในบ้านออกไปเดินนอกบ้านก็จะไม่ลื่นหกล้มจนเป็นอันตราย ก็ควรมีค่ากันลื่นที่ R11 ขึ้นไป
และบ้านบางหลังที่มีผู้สูงอายุต้องนั่งรถวีลแชร์ การทำทางลาดเข้าบ้านหรืออาคาร ที่มีขนาด 1 : 12 หรือก็คือถ้าพื้นชั้น1 สูงกว่าพื้นหน้าบ้าน 50 ซม. ก็ต้องทำทางลาดยาว 6 ม. ซึ่งบางบ้านอาจต่อเติมขึ้นมาด้วยคอนกรีต แต่ทางลาดคอนกรีตเฉยๆก็อาจลื่นและเข็นขึ้นยากในเวลาที่เปียกฝน อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการใช้กระเบื้องที่มีค่ากันความลื่นที่ระดับ R12ขึ้นไป หรือก็คือระดับที่สามารถนำไปทำทางลาดที่เอียงได้ถึง 35 องศา และยังเป็นระดับที่ใช้กับพื้นที่ส่วนห้องครัวอีกด้วย ยิ่งบ้านไหนที่ทำอาหารบ่อยแล้วมีคราบไขมันที่อาจก่อเกิดการลื่นล้มได้ ก็ควรคำนึงให้มากและเลือกกระเบื้องที่มีค่ากันลื่นระดับ R12 ในการปูพื้น
ดังนั้นเวลาเราเลือกกระเบื้องเพื่อทำสถานที่สำหรับผู้สูงอายุ ก็ไม่ควรเลือกแต่ความสวยงามอยากเดียวและไม่ควรใช้ความรู้สึกตัวเองในการสัมผัสผิวกระเบื้อง เพราะเวลาโดนน้ำกระเบื้องเหล่านั้นก็อาจลื่นได้อยู่ดี ให้ดูค่า Slip resistant เป็นหลักว่าควรจะเป็นระดับ R10 ขึ้นไป หรือบางบ้านอาจเน้นชัวร์ก็เลือกชนิดที่มีค่ากันลื่นที่ R11 ขึ้นไปตามความเหมาะสมของแต่ละบ้านไป
โดยทาง KENZAI ของเราก็มีกระเบื้องที่ระดับ R11 มาแนะนำเช่นกัน อาทิ รุ่น “Florence tile” กระเบื้องดินเผาสีส้มที่งดงาม เหมาะกับคนที่ชอบโทนบ้านที่ดูอบอุ่น, หรือบางคนอาจชอบกระเบื้องลายอิฐสีเข้ม กระเบื้องรุ่น “Extruded Tile” ก็เหมาะสมแถมยังมีค่ากันลื่นสูงถึงระดับ R11 เช่นกัน นอกจากจะกันลื่นแล้วยังมีความทนทานสูงสามารถใช้ได้ทั้งภายในภายนอกและทำความสะอาดได้ง่าย เป็นกระเบื้องเซรามิกที่เผาด้วยความร้อนสูงถึง 1250 องศาเซลเซียส จึงมั่นใจได้ถึงความแข็งแกร่งของเนื้อกระเบื้อง ใช้ได้ยาวนาน และมีความสวยงามเข้ากับทั้งสไตล์บ้านแบบไทยและบ้านแบบตะวันตก
แต่บางบ้านอาจอยากเน้นชัวร์มากขึ้น อยากได้กระเบื้องที่ค่อนข้างกันลื่นได้มากขึ้นไปอีก เป็นระดับ R12 ทางKENZAI ก็มีกระเบื้องระดับ R12 เช่นกัน อาทิ รุ่น “Narita” ที่เป็นกระเบื้องลายหินแบบญี่ปุ่น ที่ให้ความรู้สึกสวยงามแบบญี่ปุ่นยังช่วยกันลื่นได้มาก สามารถนำไปใช้ได้ทั้งภายในภายนอก จะปูเต็มพื้นลานจอดรถ หรือใช้เป็นทางเดินรอบบ้านก็เข้าที หรือจะเป็นรุ่น “Granite” และ “Granito Tile” ซึ่งเป็นกระเบื้องที่สวยงามโดดเด่นของทาง KENZAI ที่มีการใช้กันมากทั้งอาคารสาธารณะและห้างร้านต่างๆ รวมถึงตามสถานีรถไฟฟ้า เราจึงมั่นใจได้ถึงการกันลื่นและความทนทาน ดังนั้นบ้านใครที่มีผู้สูงอายุ และนิยมใช้พื้นที่ชานบ้านจัดงานต่างๆกันบ่อย การใช้กระเบื้องรุ่น Granito Tile ก็อาจตรงความต้องการท่าน
นอกจากนี้ทาง KENZAI ยังมีกระเบื้องรุ่นอื่นๆอีก ที่มีระดับการกันลื่นที่เหมาะสมแตกต่างกันไปกับความต้องการของท่าน หากท่านใดสนใจที่อยากจะปรับปรุงบ้าน ปรับปรุงสถานที่เพื่อป้องกันผู้อาวุโสในบ้าน การเลือกกระเบื้องปูพื้นที่ไม่ลื่นก็เป็นสิ่งที่ควรทำ ลองติดต่อสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องกระเบื้องกับทาง KENZAI ได้เลยครับ
ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดกระเบื้องรุ่น Florence tile ได้ที่
ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดกระเบื้องรุ่น Extruded Tile ได้ที่