แนวทางการออกแบบ Skyscraper ในอนาคต

#ClimateChange ทุกท่านทราบไหมครับว่า…
Skyscraper หรือ ตึกสูงระฟ้าในภาษาไทย คือ หนึ่งตัวการฉกาจของภาวะโลกร้อน
.
และยิ่งผนวกกับการระบาดของโรค Covid-19 ที่ทำให้การใช้ชีวิต หรือ การออกแบบในตัวตึกจำเป็นต้องมีการ Rethink หรือคิดใหม่ทำใหม่สำหรับแนวทางโปรเจคตึกระฟ้าหลังจากนี้ แล้วจะเป็นอย่างไร? มีแนวคิดแบบไหน วันนี้ ขอสรุปออกมาเป็น 3 ประเด็นดังต่อไปนี้ครับ

———————————————————-

• Ventilation Design การออกแบบระบบไหลเวียนอากาศ เพื่อลดความร้อนของตัวอาคาร

ประเด็นนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา เน้นความสำคัญเรื่องการลดความร้อน เพราะพวกอาคารสูงในปัจจุบันมักจะใช้เครื่องปรับอากาศจำนวนมาก ส่งผลโดยตรงต่อชั้นบรรยากาศของโลก
.
และอาคารยังปิดผิวภายนอกด้วยกระจก ก่อเกิดความร้อนสะสมภายในและกลายเป็น Urban heat island หรือเกาะความร้อนในเมือง ทำให้อุณหภูมิในเมืองสูงกว่าพื้นที่ชานเมือง 3-4 องศา
.
นอกจากนี้ภายในอาคารยังตัดขาดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เป็นสภาวะอากาศปิดนั้น ก่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บจากอากาศภายในได้ ผนวกกับปัจจัยของโควิดที่เกิดในปัจจุบัน จำเป็นต้องทำให้อาคารในอนาคตต้องคิดถึงเรื่อง Ventilation
.
การเปิดรับอากาศและลมภายนอกเข้าอาคาร ให้อาคารถ่ายเทได้ดี เพื่อสร้างพื้นที่ที่ดีต่อสุขอนามัยของผู้ใช้งานภายในอาคาร เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศที่ค่อนข้างสร้างผลเสียร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ก่อเกิดสภาวะโลกร้อนและอากาศเปลี่ยนแปลง
.
อาทิ EDEN skyscraper ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัยในประเทศสิงคโปร์ สามารถนำ Fresh air เข้ามาในอาคาร และให้เจ้าของห้องสามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้ และนอกเหนือจากการใช้หน้าต่างยังมีการออกแบบระเบียงขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดย่อม สร้างความร่มรื่นแม้อยู่สูงจากพื้นดินหลายสิบเมตร 

———————————————————-

• Enviromental Design ออกแบบให้เป็นอาคารเขียว

กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยด้านการออกแบบที่เป็นเทรนด์และเลี่ยงไม่ได้ครับ สำหรับการทำให้อาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
.
อาคารสูงหลายแห่งนิยมนำ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตราฐานของประเทศอเมริกา มาเป็นแนวทางในการออกแบบอาคาร
.
บางท่านก็สามารถเลือกใช้ แนวทางมาตราฐานอาคารเขียวของไทยเราที่เรียกว่า TREES (Thai’s rating of energy and environmental sustainability) 

.
โดยมาตรฐานเหล่านี้ มีการพิจารณาหลายปัจจัย อาทิ การลดพลังงานไฟฟ้าและรีไซเคิลน้ำภายในอาคาร, ใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้เป็นหลัก, เน้นการสร้างพื้นที่สีเขียวในอาคาร และ ต้องไม่สร้างคาร์บอนเกินกว่ากำหนด เป็นต้น  
.
เพราะฉะนั้นการออกแบบ Skycracer ในอนาคต ควรสร้างตามมาตรฐานเกณฑ์อาคารเขียวเหล่านี้ การก่อสร้างอาคารสูงใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อจะสร้างออกมาแล้ว ก็ควรเลือกวัสดุโครงสร้างที่ช่วยลดโลกร้อน  ใช้วัสดุที่นำกลับไปใช้ใหม่ได้ เป็นต้น

———————————————————-

• Energy Comsumption Design (การออกแบบลดการใช้พลังงานของตัวอาคาร)

บรรดาอาคารตึกระฟ้าต่างๆ ใช้พลังงานที่สูงมาก ในการจ่ายงานระบบต่างๆ ทั้งน้ำ ไฟฟ้า หรือการใช้ลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบนๆ เป็นต้น
.
ซึ่งในพื้นที่ใช้งานเท่ากัน อาคารสูงจะใช้พลังงานมากกว่าอาคาร Low-rise หรืออาคารที่ไม่เกิน 6 ชั้น ถึงร้อยละ 40 และปล่อยคาร์บอนมากกว่าถึง 2 เท่า!! [อ้างอิงผลวิจัยของมหาวิทยาลัย UCL ของประเทศอังกฤษ]
.
เพราะฉะนั้นการออกแบบด้าน Energy Consumption การเลือกใช้วัสดุและการออกแบบระบบ จึงจำเป็น
.
ในอนาคตอาคารตึกระฟ้าอาจจะออกแบบเพื่อผลิตพลังงานใช้ภายในอาคารเอง โดยใช้ Cladding หรือวัสดุปิดผิวภายนอกที่สามารถประยุกต์เป็นกระจก Solar ที่สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอต่อการใช้งานในอาคาร หรือ การติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า
.
เช่น ยุคนี้ก็มีอาคาร Strata Tower ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ยอดตึกมีการติดกังหันลมผลิตไฟฟ้าไว้
.
Timber structures โครงสร้างไม้กับอาคารสูง

อีกแนวคิดหนึ่งที่สนใจจาก Maki and Associates’ Kamemoto บริษัทจากญี่ปุ่น เคยให้ความเห็นว่า อาคารตึกระฟ้าในอนาคต จะใช้โครงสร้างจากไม้มากขึ้น

.
เรารู้ว่าไม้เป็นวัสดุที่ทดแทนได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากเลือกใช้ไม้จากแหล่งปลูกที่มีการบริหารทรัพยากร มีการปลูกทดแทนอยู่ตลอด เราจึงสามารถใช้ไม้ได้โดยที่ไม่ทำร้ายโลก

.
การถลุงเหล็ก หรือระเบิดภูเขาทำคอนกรีต เพื่อมาทำอาคาร ส่งผลเสียต่อธรรมชาติมหาศาล มีเพียงไม้ที่เป็นวัสดุที่ทดแทนได้ในชั่วอายุคน 

.
แต่ในอดีตเราติดภาพว่า ไม้ไม่สามารถทำอาคารใหญ่ได้ แต่นั่นไม่จริงอีกต่อไปครับ อย่างโปรเจค อาคาร Mjøstårnet ซึ่งเป็นอาคารสูงอันดับ 3 ของประเทศนอร์เวย์ เมื่อปี 2019

.
โครงสร้างทำจาก ไม้อัดกาว หรือ laminated timber (glulam) ที่ออกแบบอย่างดี เรียกได้ว่าแข็งแรงมาก จนทดแทนเสาคานเหล็กและคอนกรีตได้ ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการสร้างอาคารสูงโดยไม่ทำร้ายธรรมชาติ

———————————————————-

โดยสรุปแล้วอาคารสูง ตึกระฟ้า ใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมากครับ และส่งผลโดยตรงกับเรื่องสภาวะโลกร้อนหรืออากาศเปลี่ยนแปลง ดังนั้นบรรดาอาคารสูงในอนาคตที่กำลังจะสร้าง จึงต้องมีการออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน มีอากาศถ่ายเทได้ดี อันจะช่วยสร้างสุขภาวะที่ดีของทั้งอาคารและผู้ใช้งาน

.

ติดต่อ-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Inbox : http://m.me/kenzaiceramics

Line : https://lin.ee/8OWMij2

Tel : 02 692 5080-90